เคยมีคนกล่าวไว้ว่าไก่ชนสมัยนี้ ใครเก่งกว่า ใครคมกว่าก็ชนะไป ซึ่งก็มีเหตุผลของความจริงที่ปฎิเสธไม่ได้ เพราะไก่ชนมีแข้งเป็นอาวุธ ตีเข้าจุดสำคัญก็ลงไปนอนได้ ไก่ชนสมัยนี้รู้ผลแพ้ชนะกันเร็วมาก บางตัวไม่เต็มอัน แม้จะเป็นไฟท์ใหญ่ชนล้าน ก็แพ้ชนะกันที่ยกเดียวได้ นั้นก็เพราะว่าไก่ชนถูกพัฒนาความเก่งขึ้นมามาก โดยเฉพาะการเน้นพัฒนาแผลตี ต้องคม ออกแข้งถี ตีเจ็บๆ ไก่ประเภทนี้มักมีโอกาสชนะสูง
.jpg)
ต่ก็มีบ่อยครั้งที่ไก่ชนแพ้ชนะวัดกันที่ตัวไหนอดทนกว่ากัน ไม่ใช่ชนะกันที่ไก่ตัวไหนเก่งกว่ากัน ไก่ชนที่มีความอดทนเป็นเลิศนี้ก็ถือว่าเป็นยอดไก่ ที่ควรมีสายพันธ์แบบนี้ติดซุ้มเอาไว้ แม้จะเป็นไก่ชนไม่เก่ง แต่มีความอึดในการชนก็ถือว่าเป็นยอดไก่ชน การชิงชัยหรือชิงเดิมพันธ์ ความอดทนจึงถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากในสนามชนไก่ หลายครั้งในสนามชนไก่ ช่วงที่เป้นเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อไก่ชนต้องยืนระยะชนกันยาวๆ ชนกันหลายยก ก็มักชนะกันที่ความอึด ความอดทน หากตัวไหนทนกว่าก็มีโอกาสคว้าชัยมากกว่าไปก็มี ไก่ชนจะมีดีแค่แผลคมอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องมีความอึด ความเหนียว กินยากด้วย ถึงจะสมบูรณ์แบบ
สมัยนี้ไก่เก่งบางตัว ตีจนอีกตัวแม็กโคกิน เป็นต่อ 10/1 หรือจนราคาขาดไม่มีจะให้เล่น ตีเขาไม่ออกหนีเองง่ายๆ ก็มี จะผ่านมากี่ยุคกี่สมัยเหตุการณ์แบบนี้ก็ยังมีให้ได้เห็นซ้ำแล้วซ้ำอีก เป็นฝันร้ายของเซียนไก่ชน ที่เล่นแต่ออกตัวไม่ทัน กระเป๋าฉีกได้เลยหากเจอแบบนี้ ไก่ชนแพ้ชนะกันจึงมีอยู่สองประเภท คือชนะเพราะเก่ง กับชนะเพราะทน แต่หากให้ดีก็ควรจะมีดีทั้งเก่งและทนจึงจะดีที่สุด แนวทางการทำไก่ชนสมัยนี้จึงควรเน้นที่ความอึด ความทนด้วยเป็นหลัก พัฒนาเฉพาะแผลตีเพียงอย่างเดียวก็คงจะไม่เหมาะ โดยเฉพาะไก่พม่า ที่มีแผลตีคมอยู่แล้ว หากชั้นเชิงดีแต่มีข้อด้อยคือเรื่องจิตใจเอาแน่เอานอนไม่ได้ การพัฒนาไก่พม่าก็ควรจะต้องตามหาสายพันธ์ที่มีความอึด ความอดทนเข้ามาพัฒนา เพื่อแนวทางของการพัฒนาไก่ชนที่มีความเป็นเลิศออกสู่สนามชนต่อไป
.jpg)
